วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เมื่อลูกชายเล่นจู๋ ..แม่ก็จ๊ากน่ะสิ

ออกอาการมึนงงสักพัก พอจะรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องร้ายแรง แต่ก็กังวลและคิดไม่ออกว่าสาเหตุมาจากอะไร จะแก้ยังได ในที่สุดก็คิดได้ว่าต้องให้อากู(google)ช่วยไขปัญหาคาใจ ทำให้รู้ว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ลูกสนใจจู๋ตัวเองเป็นพิเศษก็เนื่องมาจากเรา(พ่อแม่)นั่นเอง ..พ่อไม่ต้องเดินหนี มารับผิดชอบร่วมกันเลย เพราะตัวดีเลยชอบจับจู๋ลูก ส่วนเราก็ไม่ค่อยให้ลูกไปเล่นกับเพื่อน แต่เราเองก็ไม่ค่อยเล่นกับลูก ..ต้องปรับปรุงตัว
เอาล่ะ ใครมีปัญหาเหมือนกัน เอาปัญญามาไขปัญหาให้ค่ะ รวบรวม เรียบเรียงใหม่ ข้อมูลจากเวปดีๆ tiny zone ,เว็บไซต์สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์และเวปหมอชาวบ้านค่า ..กราบงามๆค่ะ

การเล่นอวัยวะเพศของเด็กวัย 3-4 ขวบนี้ ต้องถือว่าเป็นเรื่องปกติ มีเหตุผลเช่นเดียวกับการติดนิสัยดูดนิ้ว เหมือนกับที่เด็กเล็กๆ ติดขวดนม ดูดนิ้วมือ หรือชอบจับลูบคลำส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายเป็นประจำ ซึ่งเป็นความพอใจในลักษณะเดียวกันไม่ใช่เรื่องความความผิดปกติแต่อย่างใด เมื่อบอกคุณแม่ว่าปล่อยให้เด็กดูดนิ้วต่อไปได้ เพราะจะหายเองในอนาคต คุณแม่ส่วนใหญ่ยอมรับฟัง แต่พอพูดเช่นนี้กับคุณแม่ ที่มีปัญหาลูกเล่นอวัยวะเพศ คุณแม่มักยอมรับไม่ได้ เพราะอะไรที่เกี่ยวกับเพศ จะทำให้ผู้ใหญ่เดือดเนื้อร้อนใจเป็นพิเศษ ทั้งที่เด็กวัยนี้ยังไม่เข้าใจความหมายหรือมีความรู้สึกถึงความต้องการทางเพศหรือความใคร่เหมือนผู้ใหญ่ แต่เป็นเพราะเหตุบังเอิญที่ทำให้เด็กจับบริเวณอวัยวะเพศบ่อยๆ ก็เกิดความพึงพอใจ หรือการที่พ่อแม่ทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศให้ลูก บางครั้งอาจนานเกินไป ทำให้ลูกเกิดความรู้สึกพึงพอใจเมื่อได้รับการสัมผัสบริเวณนั้น
อันที่จริง การเล่นอวัยวะเพศของเด็กวัยนี้ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากการอมมือ ถ้าจะคิดว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับเพศก็คงเหมือนกับความคิดของซิกมันต์ ฟรอยด์ ที่ว่า การดูดนิ้วเกี่ยวโยงกับเรื่องเพศเท่านั้นเอง ซึ่งนิสัยเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะเด็กไม่มีโอกาสและสถานที่ระบายพลังงานออกจากกายอย่างเพียงพอ หากเด็กได้เล่นกับเพื่อน ได้วิ่งเล่นออกกำลังกายนอกบ้านตามความต้องการนิสัยเหล่านี้จะหายไปเอง และไม่มีผลต่ออนาคตของเด็กเลย เวลาเด็กอมนิ้วหรือเล่นอวัยวะเพศ ตัวแกเองก็รู้สึกอายเหมือนกัน จึงไม่ยอมทำในที่ที่มีคนเห็น หากพบว่าลูกมีนิสัยเล่นอวัยวะเพศ การห้ามปรามตรง ๆ คงไม่ได้ผล ควรสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่อำนวยให้เด็กมีโอกาสเล่นอวัยวะเพศดีกว่า
เด็กที่อยู่บนแฟลตสูง ๆ และไม่ได้เล่นกับเพื่อน คุณแม่ควรพาแกลงมาเล่นบนพื้นดินกับเด็กอื่น ๆ บ้าง หรือส่งไปโรงเรียนอนุบาล แทนที่จะให้ไปเหงาอยู่กับบ้าน ถ้าที่บ้านมีสนาม อาจเลี้ยงลูกสุนัขได้เป็นเพื่อนวิ่งเล่น หรือทำชิงช้า ทำที่ปีนป่ายให้เล่น เป็นต้น ในกรณีที่รู้ว่าเด็กใช้เก้าอี้ตัวนั้นเสียชั่วคราว การหยิก การตี ขู่ว่าอวัยวะจะเน่า หรือหลอกเด็กว่าจะทำให้แก่โง่เง่า เป็นสิ่งไม่ควรทำ การล้างมือของเด็กให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่อวัยวะเพศ ถ้าเด็กมีพยาธิจะทำให้รู้สึกคันก้นและบริเวณอวัยวะเพศบ่อย ๆ จนกระทั่งรู้จักการเล่นอวัยวะเพศ ควรตรวจและกำจัดพยาธิเป็นประจำ การเล่นอวัยวะเพศซึ่งเริ่มในช่วงอายุ 4 ขวบ อาจติดเป็นนิสัยไปจนถึงวัยเข้าโรงเรียน และจะหายไปเองในวัยประถม หลังจากนั้น แกก็กลายเป็นเด็กปกติ
สรุป สาเหตุ ได้แก่
1. เด็กกระตุ้นด้วยตนเองจากการค้นพบโดยบังเอิญ เด็กเล็กที่เริ่มคว้าและจับสิ่งของต่างๆ ได้แล้วก็จะชอบจับอวัยวะต่างๆของตนเอง เช่นจับใบหู จับมือ จับเท้าและจับอวัยวะเพศแล้วบังเอิญเกิดความพึงพอใจ เด็กจึงเล่นอวัยวะเพศต่อ ในเด็กที่โตขึ้นมาหน่อยเผอิญนอนคว่ำอวัยวะเพศไปเสียดสีเข้ากับหมอนข้างแล้วเกิดความพึงพอใจ เด็กเกิดการเรียนรู้จึงทำซ้ำๆ
2. การระคายเคือง เกิดจากการทำความสะอาดไม่ดีเพียงพอ หรือเกิดจากพยาธิเส้นด้าย ทำให้เด็กเกิดอาการคันเมื่อเกาบริเวณอวัยวะเพศแล้วเด็กรู้สึกพึงพอใจจึงทำซ้ำ
3. พ่อแม่ทำความสะอาดให้เด็กมากเกินไป พ่อแม่บางคนที่รักความสะอาดมากๆเวลาอาบน้ำจะขัดถูให้เด็กบ่อยๆ และพ่อแม่บางคนจะเอาสำลี มาทำความสะอาดบริเวณนี้ของเด็กบ่อยๆ จึงเป็นการกระตุ้นเด็กโดยไม่รู้ตัว
4. ผู้ใหญ่ชอบแหย่เด็ก ผู้ใหญ่บางคนชอบแหย่เด็กโดยการเอามือไปจับจู๋เด็กเล่น หรือบางคนชอบเอาใบหน้าที่มีหนวดไปไซร้ที่อวัยวะเพศของเด็ก ทำให้เด็กจั๊กจี๋และเกิดความพึงพอใจจึงจับอวัยวะเพศของตนเองเล่น
5. เด็กบางคนเหงาและมีเวลาว่างก่อนนอน เด็กบางคนอาจถูกปล่อยให้เล่นคนเดียวอยู่บ่อยๆเด็กจึงกระตุ้นตนเองโดยการดูดนิ้ว นั่งโยกตัว ดึงผมและเล่นอวัยวะเพศ เป็นต้น จะทำจนติดเป็นนิสัย หรือเด็กที่ง่วงนอนแล้วตายังสว่าง นอนไม่หลับก็จะจับผ้าห่มถูเล่น ถูมือ แคะจมูก ดูดนิ้วลูบคลำอวัยวะเพศ เป็นต้น และเมื่อเด็กเกิดความพึงพอใจเด็กก็จะทำบ่อยๆ จนติดเป็นนิสัย
6.เด็กเลียนแบบผู้ใหญ่ กรณีนี้อาจเกิดขึ้นได้ถ้าหากผู้ใหญ่ไม่ระมัดระวังและทำอะไรให้เด็ก เห็นเด็กก็จะเลียนแบบหรือเลียนแบบในวีดีโอ
วิธีแก้ไข
- การแก้ไขที่ได้ผลดี เมื่อลูกเล่นอวัยวะเพศ คือ การเบี่ยงเบนความสนใจ ไม่ใช่การว่ากล่าวให้เกิดความรู้สึกกลัว เพราะการทำเช่นนี้ ลูกอาจรู้สึกว่า ความรู้สึกเรื่องเพศเป็นสิ่งที่ผิด เป็นเรื่องเลวร้ายกลายเป็นความเข้าใจผิด หรือเกลียดกลัวเรื่องเพศไป กลายเป็นปัญหาเมื่อเป็นผู้ใหญ่
- ถ้าเห็นลูกใช้มือคลำ เกาผิดปกติ ตรวจดูก่อนว่าบริเวณอวัยวะเพศลูกมีแผล รอยแดง ที่ทำให้ลูกคันหรือไม่ และบางครั้งอาจเกิดจากการที่มีพยาธิ ซึ่งเด็กมักจะคันในช่วงหัวค่ำ จะได้รู้สาเหตุของการจับอวัยวะเพศอย่างแน่ชัด กรณีที่เป็นพยาธิเส้นด้าย เด็กควรได้รับยาถ่ายพยาธิ
- เมื่อทำความสะอาดอวัยวะเพศแล้วควรซับบริเวณนั้นให้แห้งจะได้ไม่เกิดการระคายเคือง
- การทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศ ควรระมัดระวังไม่ควรเช็ดถูและกระตุ้นบริเวณนั้นมากเกินไป ทำแต่พอควร
- พ่อแม่ควรมีเวลาให้เด็กและควรทำกิจกรรมร่วมกับเด็กบ้าง เพราะถึงแม้ว่าการเล่นอวัยวะเพศในเด็กวัยนี้จะไม่ได้เป็นเรื่องที่ร้ายแรง แต่ในเด็กบางคนที่ขาดความอบอุ่น หรือเกิดความรู้สึกเหงา เศร้าซึม อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้หมกมุ่นกับเรื่องนี้ได้ ไม่ควรปล่อยให้เด็กอยู่ตามลำพังบ่อยๆ และควรเปิดโอกาสให้เด็กได้เล่นกับเพื่อนๆ
- เมื่อคุณพ่อคุณแม่เห็นว่าลูกกำลังเล่นอวัยวะเพศอยู่ ไม่ควรตระหนกตกใจจนเกินไป ควรเพิกเฉย ไม่ควรหลอกว่าจะตัดจู๋หรือจิ๋มจะเน่า เพราะจะทำให้เด็กกลัว ไม่ดุว่า หรือเฆี่ยนตี เพราะไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้น การว่ากล่าวอย่างรุนแรง อาจทำให้เด็กเกิดความรู้สึกต่อเรื่องนี้ในด้านลบ และเกิดผลเสียด้านจิตใจตามมา ควรใช้วิธีก็ชักชวนหากิจกรรมอย่างอื่นเล่นกับลูก ชวนลูกไปเตะบอล ช่วยแม่ทำกับข้าว + มีเวลาให้กับลูกอย่างสม่ำเสมอ ถ้าเห็นว่าลูกมีพฤติกรรมดังกล่าวอาจจะเพิ่มเวลาที่ทำกิจกรรมกับลูกมากขึ้น แต่ไม่ใช่การจับผิดลูก
- ช่วงเวลาเข้านอน เด็กที่เล่นอวัยวะเพศเวลาเข้านอนแม่ควรพาเด็กเข้านอน อ่านหนังสือหรือเล่านิทานให้ลูกฟังก่อนนอน ให้เด็กจับมือแม่ หาผ้าห่มหรือของเล่นชิ้นเล็กให้เด็กจับ แต่ไม่ควรให้เด็กกอดหมอนข้างหรือตุ๊กตาเพราะเด็กจะนอนคว่ำแล้วถูไถ อวัยวะเพศกับหมอนหรือตุ๊กตาได้
ถ้าลูกยังไม่ง่วงนอน ไม่ควรปล่อยให้ลูกนอนเองตามลำพัง เพราะช่วงเวลาว่างๆ ที่ไม่มีกิจกรรมลูกก็อาจมีพฤติกรรมนี้ได้อีก
- พ่อแม่ไม่ควรให้เด็กเห็นภาพความสัมพันธ์ทางเพศของผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์จริง จากหนังสือสิ่งพิมพ์ หรือวิดีโอ
- ผู้ใหญ่ไม่ควรหยอกล้อแสดงความเอ็นดูเด็กด้วยการจับอวัยวะเพศ หรือไซจมูกบริเวณอวัยวะเพศของเด็ก ควรชวนเด็กเล่นและทำกิจกรรมอย่างอื่นแทน
- อย่าให้เด็กแก้ผ้า เพราะเด็กจะจับต้องได้ง่าย
- ไม่สวมใส่กางเกงที่คับเกินไปให้กับลูก
- ในเด็กเล็กควรชวนเด็กเล่นและเบนความสนใจไปทำอย่างอื่น เด็กก็จะเลิกสนใจไปเองถ้ามีสิ่งอื่นให้ทำและสนุกกว่า
- พ่อแม่ไม่ควรกังวลใจในเรื่องนี้ให้มากนัก การเล่นอวัยวะเพศในเด็กไม่ได้เป็นปัญหาที่รุนแรงสามารถรักษาให้หายได้ โดยการปรับพฤติกรรมและเบี่ยงเบนความสนใจ การเล่นอวัยวะเพศในเด็ก ไม่ได้เป็นแบบเดียวกับการสำเร็จความใคร่ในผู้ใหญ่ แต่เป็นเพราะเด็กกระตุ้นอวัยวะเพศแล้วเกิดความพึงพอใจ ไม่ได้กลายเป็นปัญหาทางเพศหรือวิปริติทางเพศเมื่อโตขึ้น ดังนั้นพ่อแม่เมื่อเจอปัญหานี้ควรจัดการดังคำแนะนำข้างต้น ถ้าไม่ดีขึ้นลองปรึกษาจิตแพทย์

เหมือนได้รับคำปลอบใจเนอะ ก็ต้องแก้ไขกันไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น