วันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2554

น้ำคร่ำ น้ำเดิน

นอกจากการเตรียมเครื่องใช้ต่างๆให้ลูก ให้มีเรียบร้อยแล้ว คุณพ่อที่จะเข้าไปช่วยแม่คลอดก็ต้องเตรียมตัว(กล้องบันทึกภาพ)เตรียมใจด้วยนะคะ ผู้ชายหลายคน เข่าอ่อนในห้องคลอดได้เหมือนกัน เมื่อกาย(พ่อแม่)พร้อม ใจ(พ่อแม่)พร้อม ก็รอลูกรักพร้อมที่จะออกมาลืมตาดูโลก พ่อแม่บางคนอาจจะเลือกวันสะดวก วันดี ฯลฯ ก็แล้วทัศนคคติของและคนไปค่ะ แของเรากับสามีนิยมฤกษ์สะดวก ลูดสะดวกเวลาไหนได้ทั้งนั้น
จากการคำนวณของคุณหมอลูกชายจองเราน่าจะมีกำหนดคลอดวันที่ 17 พ.ย. ซึ่งวันนั้นหมอนัดเราพอดี ไม่รู้เพราะกังวล เครียดด้วยหรือเปล่า ทำให้ตอนรอหมอหน้าห้องเราเกิดอาการเจ็บแปล๊บที่ท้อง จึงบอกสามีและพยาบาลหน้าห้อง หมอให้ขึ้นเตียงเช็คว่าช่องคลอดเปิดไหม ก็ยังไม่เปิด เลยตัดสินใจว่าจะกลับบ้านหรือนอนดูอาการ เนื่องจากบ้านไกล ร.พ.มากเลยตัดสินนอน แต่ปฏิเสธฉีดยาเร่งคลอด จนสว่าง จนเตียงข้างๆเขาคลอดหมดก็ยังไม่มีวี่แวว สามีเลยได้จ่ายตังค์ค่า(เสียเวลา)หมอ(เสียเวลา)พยาบาลไปสี่พัน สบายใจโล่งกระเป๋า...
จากนั้นอีกสามวันต่อมา สามีไปธุระกับแม่เค้า มีเราอยู่บ้านกับแม่เรา(แม่มาอยู่เป็นเพื่อนตอนใกล้คลอด) มีป้าที่มาทำงานที่บ้านด้วย กำลังกินข้าวกลางวันกันอยู่ เราก็รู้สึกเหมือนเวลาประจำเดือนไหล เหมือนมีของเหลวไหลออกมา แต่ก็ยังไม่บอกใคร เพราะยังไม่แน่ใจ สักพัก มีอีก เลยบอกแม่ จะโทร.บอกสามีละแต่ป้าคนนั้นบอกว่า ยังหรอก สมัยก่อนเค้าน้ำเดินกัน อีกเป็นอาทิตย์ถึงคลอด อีกทั้งเราไม่มีอาการเจ็บท้อง(เหมือนในละคร)ด้วย แต่ด้วยความกังวลใจ เลยโทร.บอกสามี ซึ่งกว่าสามีจะกลับก็เกือบสี่โมงเย็น หลังจากนั่งปรึกษากันว่าจะเอายังไง(กลัวถูกเด็กในท้องหลอกอีก) สามีโทร.ปรึกษาพี่สาวของเขา พี่แนะนำให้ไปร.พ.เพื่อความสบายใจ และเราเองก็คิดว่ามันไม่ปกติ จึงตัดสินใจขับรถไปท่ามกลางสายฝน ไปถึงร.พ.เกือบสองทุ่ม แม่เราพาไปที่ห้องฉุกเฉิน ยังไม่ทันซักประวัติ คราวนี้น้ำคร่ำไหลพรวดเปียกพื้นเป็นทาง เราจึงถูกส่งตัวไปห้องรอคลอดทันที พยาบาลเช็คแล้วปากมดลูกเปิดยังไม่มาก จึงฉีดยาเร่งคลอดและคาดว่าน่าจะคลอดช่วงใกล้เช้า เราก็นอนรอมีแม่อยู่ด้วย การเจ็บคลอดมันจะมาเป็นระรอก เจ็บมาแทนได้(ไม่ต้องถึงขนาดส่งเสียงโหยหวนเหมือนในละคร)สักประมาณสี่ทุ่มกว่า พยาบาลซึ่งมาดูเป็นระยะก็บอกเราว่า “ถ้าน้องรู้สึกเหมือนขี้จะออกบอกพี่นะ” ..ชัดเจนมากเลยพี่... พอเรามีอาการดังว่าเลยบอกแม่ให้เรียกพยาบาล พอมาวัดช่องคลอด เค้าก็ตกใจเพราะช่องคลอดเปิดเร็วกว่าที่เค้าคาด เรียกหมอใหญ่เลย เมื่อเข้าห้องคลอดก็เบ่งกันนาน เพราะลูกหัวค่อนข้างใหญ่ มีเรื่องขำ(แหมอไม่ขำ)คือพยาบาลลืมสวนปัสสาวะเรา ตอนเบ่งเลยพุ่งเฉียดหน้าหมอ(สามีบอก) ดีที่หมอไว หลบทัน หมอจะถอดใจแล้วให้ผ่า ด้วยความกลัวโดนผ่า เลยฮึดจนเบ่งออกเองได้ มีการใช้เครื่องดูดช่วย หัวลูกน้อยเลยปูดเล็กน้อย
ถึงตอนนี้ขอเบรกมาเล่าเรื่องน้ำเดินกันเล็กน้อย เราว่าสำคัญนะสำหรับคนท้องแก่ แม้อาการของการจะคลอดมีหลายอย่างตามที่หาอ่านได้ในหนังสือทั่วไป แต่เราจะละเลยอาการน้ำเดินไม่ได้เลย เราได้พูดคุยกับน้องที่ทำงานหลังจากคลอดแล้วสักพัก น้องเล่าว่าเพื่อนท้องแก่ยังไม่ถึงกำหนดคลอด สามีเข้างานกะกลางคืน มีอาการน้ำเดินแต่เนื่องจากอยู่คนเดียว จึงรอสามีออกกะจึงค่อยไปร.พ. ปรากฏว่าลูกเสียชีวิต น่าเศร้ามาก อีกกรณีรู้จากพี่คนหนึ่งแต่รายนี้โชคดีที่ไปร.พ.ทั้งที่อายุครรภ์แค่36สัปดาห์ ลูกคลอดมาปลอดภัยดี เพราะฉะนั้นอย่าละเลยเมื่อน้ำเดินนะจ๊ะ