วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2555

เขียนเรื่อง"ความโกรธ" ในวันที่ไม่โกรธ

จากหนังสือที่ได้มาเพราะประทับใจชื่อ แต่ยังไม่เคยเปิดอ่าน “สุดยอดคำคมคารมปราชญ์ทุกศาสนาที่ทรงคุณค่านิรันดร์กาล ” ของ สำลี รักสุทธี เมื่อได้เปิดอ่านจึงได้สะอึกกับคำคมบทแรกของศาสนาพุทธที่เรานับถือนี้แหละ
“อย่าปล่อยให้ความโกรธมีอำนาจเหนือเรา เราควบคุมตนเองได้ คนที่สามารถเอาชนะความโกรธได้ย่อมเป็นผู้มีอำนาจเหนือผู้ที่ยอมให้ความโกรธครอบงำ คนหนึ่งนายเหนืออารมณ์ของตน ส่วนอีกคนเป็นทาสอารมณ์ของตนความเกลียดชังเป็นตัวทำลายมนุษยชาติ จึงควรกำจัดความโกรธให้หมดไป”
..ทำไมจะไม่สะอึกล่ะ ก็เรารู้ตัวเองอยู่ว่ามีพื้นสันดานเป็นคนขี้โกรธ โมโหง่าย รู้เรื่องนี้ดีแต่จับความโกรธที่เกิดไม่ทันสักทีก็รู้สึกละอาย เลยลองเปิดอ่านของศาสนาอื่นดู จะมีคำสอนใดขึ้นต้นหนอ..
• ศาสนาคริสต์ “ พระเจ้าสอนให้เราไม่โกรธ จงอย่าโกรธง่ายและจงพร้อมที่จะให้อภัย คนที่เกลียดพี่น้องของตนเปรียบได้กับฆาตกรสัญลักษณ์แห่งความเป็นคริสต์ ”
• ศาสนาอิสลาม “ อาบู ฮูไรรา ได้แจ้งพระวจนะของพระเจ้าว่า “นักมวยปล้ำชั้นดีไม่ถือว่าแข็งแรง คนที่แข็งแรงที่สุดคือคนที่ควบคุมตนเองได้ในยามโกรธ”
...นี่ 3 ศาสนาใหญ่ๆที่เรารู้จักเองนะเนี่ย ยังแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่แย่ที่สุดคือความ “โกรธ” ยังมีอีกหลายศาสนาที่คุ้นชื่อบ้างไม่คุ้นบ้าง ดังนี้
• ศาสนาโซโรอัสเตอร์ “จงอย่าปล่อยตนไปกับอารมณ์ร้ายของความโกรธ ความริษยา ความกลัว และความเศร้า จงมองโลกในแง่ดีเสมอ”
• ศาสนาขงจื้อ “จงพาตนหลีกเลี่ยงที่จะเกลียดหรือโกรธผู้อื่นมธุรสวาจาหือการไม่เรียกร้องคือทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้อื่นเกิดความโกรธ”
• ศาสนาเชน “ความโกรธมิใช่วิสัยของบัณฑิตหรือศาสนิกชน จงทนความบีบคั้นโดยไม่โกรธ คนโง่และคนบาปเท่านั้นที่จะปล่อยตัวให้โกรธ” ..อ้าว ตรู
• ศาสนายูดาย “ความรักเท่านั้นที่จะได้รับการสรรเสริญไม่ใช่ความโกรธ ความโกรธเป็นเหตุของความยากไร้และความหายนะ จงตอบโต้ความโกรธของผู้อื่นด้วยความรักและความเมตตา โดยวิธีนี้เราจะทำให้ผู้อื่นหายโกรธได้ คนโง่เท่านั้นที่ปล่อยตัวเองให้โกรธ” ...อีกละ โง่อีกละ..
• ศาสนาบาไฮ “จงอย่าโกรธแค้นชึ่งกันและกัน จงมีความรักต่อสรรพสัตว์ทั้งหลายเพื่อพระผู้ป็นเจ้า ไม่ใช่เพื่อตนเอง เราจะไม่มีอารมณ์โกรธหรือรำคาญหากเรารักผู้อื่นเพื่อพระเจ้า”
• ศาสนาชินโต “จงเว้นความโกรธเคืองและเว้นจากกิริยาที่แสดงความโกรธเคือง”
• ศาสนาซิก “โทสะเปรียบเหมือนถ้วยซึ่งบรรจุเรื่องโลกีย์ มีทิฐิเป็นบริการความลุ่มหลงในสิ่งจอมปลอม และความโลภเป็นตัวสังหารมนุษย์”
...ได้รู้สึกตัวอย่างแท้จริงก็เมื่อมีคำสอนเรื่องนี้จากศาสดาทั้งโลกมาสอน อาการหนักนะเราเนี่ย แต่ก่อนหน้านี้ก็คิดได้อยู่เลาๆว่า “คนที่ขาดสติด้วยความโกรธแย่ยิ่งกว่าคนที่ขาดสติเพราะของมึนเมาซะอีก” ... ต้องปรับปรุงเรื่องนี้อย่างแรง อายุมากแล้ว เดี๋ยวดัดยาก สาธุ ขอให้นิสัยนี้อย่าถ่ายทอดสู่ลูกเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น